สำหรับวันนี้เริ่มต้นด้วยการตอบคำถามจากครั้งที่แล้วนะคะ คือ มั่นใจได้ไงว่ากินยูซาน่ามันจะโอเค ปลอดภัย บลาๆๆๆ
จริงๆบิ๋มไม่ได้เป็นคนมีความรู้ทางโภชนาการมากมายใดๆทั้งสิ้น ก็เลยต้องพึ่งหลักฐานปลากรอบนิดดดนึงงงงค่ะ นั่นก็คือ..... หนังสือเล่มนี้นี่เอง (เห็นอย่างนี้บิ๋มก็มีความพยายามที่จะดูว่าอาหารเสริมที่บิ๋มกินมันคุ้มค่ากับร่างกายและกับเงิน (ของแม่) ที่เสียไปหรือเปล่า55555)
มีใครเคยเห็นหนังสือเล่มนี้มาก่อนป่าววว?????
นี่เป็นหนังสือที่สถาบัน NutriSearch เขียนขึ้นค่ะ ซึ่งสถาบันนี้ทำเกี่ยวกับ การนำอาหารเสริมที่มีในอเมริกาและแคนาดามาเปรียบเทียบกันค่ะ! เป็นกลาง และไม่รับเงินอุดหนุนจากมูลนิธิใดๆหรือบริษัทเอกชนใดๆทั้งสิ้นเพราะขายหนังสือค่ะ แล้วก็ไม่เคยโดนฟ้องร้องด้วย
(เว็บไซต์ของNutriSearch = www.nutrisearch.ca ค่ะ และหนังสือที่ว่ามีขายด้วยนะคะ มีที่ Amazon (ไม่ใช่ร้านกาแฟนะ😱)) แต่ร้านหนังสือที่ไทยไม่แน่ใจ ต้องไปสำรวจดูก่อน~)
เปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายกว่านี้ก็คือ หนังสือเล่มนี้เปรียบเหมือนบล็อกเกอร์มารีวิวอาหารเสริมที่มีในอเมริกาและแคนาดาค่ะ (ซึ่งยูซาน่าก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ) แต่เป็นการรีวิวที่มีสาระมากถึงมากที่สุด (มากกว่าบล็อกกากๆนี้ด้วย) ทั้งดูในแง่ส่วนผสม แง่สารอาหาร แง่สารตกค้าง แง่การดูดซึม บลาๆๆ โดยผู้เขียนเล่มนี่ก็คือ "ไลน์ แมค วิลเลียม (Lyle MacWilliam)" คนนี้เป็นอดีต สว. ของแคนาดา, เป็นนักโภชนาการ, เป็นคนก่อตั้งสถาบันนี้ด้วย"
**ใครแปลอังกฤษได้จะได้รายละเอียดเยอะกว่านี้ ส่วนดิฉันได้เท่าที่แปลได้ 😢**
***เพราะเล่มนี้แท้ๆทำให้บล็อกนี้ดูมีสาระอยู่บ้าง55***
ทั้งสถาบัน ทั้งที่มาหนังสือ ทั้งคนเขียนก็มีความน่าเชือถือค่อนข้างสูงเลยทีเดียวค่ะ และแน่นอนค่ะเพื่อหาความคุ้มค่าความมั่นใจให้กับตัวเองก็รีบหาทันทีว่าคุณไลน์แมควิลเลียมคนนี้เขาจะให้คะแนนหรือมีผลว่ายังไงกับยูซาน่า
และภาพต่อไปนี้คือถ่ายมาจากหนังสือนะคะ เอาแต่เฉพาะของยูซาน่าเนาะ เราจะมิยุ่งกับตัวอื่นๆ
นี่เป็นการให้คะแนนค่ะ ยูซาน่าเต็ม5ดาวเหลือง เอ้ย ทองค่ะ
อันนี้เป็นกราฟวัดว่าในอาหารเสริมแต่ละยี่ห้อมีผลยังไงบ้าง สรุปจากกราฟได้ว่า "สารอาหารอยู่ในระดับกลางค่อนไปถึงมาก (แสดงว่ามีประยชน์) ไม่มีสารตกค้าง (แสดงว่าไม่มีผลข้างเคียง) ภาวะการดูดซึมเข้าร่างกายอยู่ในระดับดี (แสดงว่าร่างกายดูดซึมพวกสารอาหารที่มีประโยชน์นี้ทั้งหมดทั้งมวลไปได้)และ ได้5ดาวเหรียญทองในอเมริกาและแคนาดา(เป็นการการันตีอีกทีว่าเชื่อถือได้ กินได้)" ประมาณนี้
ถ้าสนใจอยากได้เล่มนี้ ก็น่าจะประมาณ500บาทค่ะถ้าจำไม่ผิด หาซื้อเอาเลย5555 ตอนนี้ที่รู้คือซื้อขายได้ผ่านทาง amazon. เดี๋ยวว่างๆค่อยไปทัวร์ดูว่าร้านหนังสือที่นี่มีขายที่ไหนบ้าง
ถามว่าซื้อมาไว้ทำไม? บิ๋มคิดว่าก็แล้วแต่คนนะ ซื้อไม่ซื้อก็ได้ แต่อย่างน้อยถ้าเราเป็นคนที่กินอาหารเสริมอะค่ะก็สามารถมาเช็คในเล่มนี้ได้ว่ายี่ห้อที่เรากินอยู่ (ซึ่งเฉพาะยี่ห้อในอเมริกาและแคนาดา) ผลการพิสูจน์หรือการทดลองจากนักโภชนาการอย่างไรบ้าง ข้อดีข้อเสีย คุ้มไหมที่เราจะกิน ประมาณนี้อะค่ะ
จอบอ. สำหรับเรื่องมีสาระก็ประการฉะนี้
สำหรับการกินในวันปกติ
ก็แบบเดิมค่าาาาาาา😢
เช้า: สมาร์ทเช็ค+ไฟเบอร์+เฟลเวอร์ค่ะ
ปั่นโดยใส่ชาเขียวที่เหลือค่ะ เบื่อแสงส้มละ มาถ่ายแสงที่ตู้เย็นบ้าง
ตอนเที่ยงก็ข้าวราดแกงปกติค่ะ + ขนม55555
กินแค่ชิ้นเดียววววเอ๊งงงงงง 😭
และตอนเย็นก็...เหมือน-เดิมมมมมม ย๊ากกกก~
ช็อกโกแลตนะคะๆ แต่มื้อนี้จะไม่เหลือมาใส่เป็นผงโรยหน้าละ ลองเทหมดซองละกัน
อือหืมมม~ กลิ่นช็อกโกแลตฟุ้งงงงง😎 แต่รสชาติไม่ได้มีช็อกโกแลตเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด55555
นี่พยายามหามุมภาพใหม่ๆมานำเสนอสุดฤทธิ์ 😭 ปั่นเสร็จละก็กิน กินเสร็จก็ล้าง แล้วค่อยมาตบท้ายที่วิตามิน
จบละวันนี้ เป็นการบรรยายการกินที่ย่ำแย่จริงๆ คือหลักๆก็เช้า-เย็นบิ๋มกินเหมือนเดิมตลอดค่ะ จะแตกต่างก็แค่สลับรสชาติระหว่างชาเขียว-ช็อกโกแลต ช็อกโกแลต-ชาเขียวเท่านั้นเอง😭
ความรู้สึก: มีความรู้สึกว่าตั้งแต่กินตัวนี้จนมาถึงวันนี้วันที่ 3 มีอาการอยากจะปล่อยลมออกบ่อยมาก ต้องเล็งจังหวะดีๆ🤔 จริงๆก็มีความรู้สึกอยากถ่ายแต่บางครั้งเรานั่งทำงานอยู่แล้วไม่อยากลุกไปไหนก็จำใจเก็บกดเอาไว้จนลืมไปเลยไรงี้ก็มี
ส่วนรสชาติของสมาร์ทเชคนี่คือต่อให้ใส่เฟลเวอร์จนหมดซอง มันก็ไม่ได้มีรสเพิ่มแต่อย่างใด แต่กลิ่นมันน่าพิศมัยเอามากๆ สี+กลิ่นทำให้สมาร์ทเชคน่าทานขึ้นมากก ถ้าชง/ปั่น/เขย่า สมาร์ทเชคจนแตกละเอียด ก็จะกินง่ายขึ้นด้วยประการฉะนี้แล
บับบายยยยยย
ติดตามได้ในวันพรุ่งนี้นะคะ 🤗
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น